บทความประจำเดือน สิงหาคม 2565โครงการ HS10-1 โครงการน้ำพริกกากหมูเมืองแฝก เลิศรส เสริมรายได้ ขยายเศรษฐกิจชุมชน และ โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเมืองแฝก
ข้าพเจ้านางสาวโสรญา หนองหาญ กลุ่มประชาชน ผู้เข้าร่วมโครงการ HS10-1 โครงการน้ำพริกกากหมู เมืองแฝกเลิศรส เสริมรายได้ ขยายเศรษฐกิจชุมชน และ โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเมืองแฝก
เมื่อวันที่ 9 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565 ข้าพเจ้าได้สำรวจตรวจสอบข้อมูล TCD ของบ้านหนองครก หมู่ที่ 2 ตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์ก็เพื่อ เก็บข้อมูล และให้ผู้ปฏิบัติงานโครงการ U2T for BCG ได้เรียนรู้และเข้าทำระบบจัดเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมในการเก็บข้อมูล TCD ซึ่งในระบบการจัดเก็บข้อมูล TCD นั้นมีดังนี้
ผู้ที่ย้ายกลับบ้าน เนื่องจากสถานการณ์โควิด
แหล่งท่องเที่ยว
ที่พักโรงแรม
ร้านอาหารในท้องถิ่น
อาหารที่น่าสนใจประจำถิ่น
เกษตรกรในท้องถิ่น
พืชในท้องถิ่น
สัตว์ในท้องถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
แหล่งน้ำในท้องถิ่น
เมื่อวันที่16 เดือน สิงหาคม 2565 ข้าพเจ้า นางสาวโสรญา หนองหาญ ได้ลงพื้นที่เข้าไปพบปะพูดคุยกับ นายสมบูรณ์ ทิพย์สงคราม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านหนองครก ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เพื่อบอกเล่ารายละเอียดของของโครงการ น้ำพริกกากหมูเมืองแฝก เลิศรส เสริมรายได้ ขยายเศรษฐกิจชุมชน และ โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเมืองแฝก พร้อมกับให้ทางผู้ใหญ่บ้านชี้แนวทางในการจัดหาวัตถุดิบพื้นบ้าน จำพวก พริกแห้ง หัวข่า ตะไคร้ และใบมะกรุด จากชาวบ้านในท้องถิ่นนำมาขายในการทำน้ำพริกกากหมู เพื่อสร้างรายได้เป็นลำดับต่อไป ซึ่งได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากเกษตกรในท้องถิ่นในการจัดหาวัตถุดิบในครั้งนี้
และในช่วงบ่าย กลุ่มพวกเราชาวเมืองแฝกโอชา ยังรับเกียรติจาก คุณแม่ศิริญญา หนองหาญ หรือที่ชาวบ้านเรียก ป้าแดง เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำพริกกากหมูและน้ำพริกปลาทูคั่วแห้ง(น้ำพริกคุณแม่) ที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้เลือกทำโครงการน้ำพริกกากหมูเมืองแฝกเลิศรส เสริมรายได้ ขยายเศรษฐกิจชุมชน และโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเมืองแฝกแข็งแรง น้ำพริกปลาทูคั่วแห้งโอชานี้ขึ้น เนื่องจากเห็นว่ากากหมูเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบและทุกคนรู้จักทั่วถึงสามารถนำมาทำเป็นน้ำพริกที่รสชาติอร่อยถูกใจผู้บริโภค ด้วยการนำเอากากหมูธรรมดามาพลิกแพลงผสมผสานกับเครื่องปรุงอื่นๆ ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะปรุงเพื่อรับประทานในครัวเรือนเองแล้ว ยังสามารถจำหน่ายสร้างรายได้เสริม และปลาทูก็เป็นอาหารที่หาซื้อได้ง่ายราคาไม่แพงจนเกินไป น้ำพริกปลาทูโดยทั่วไปจะไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน เราจึงทำเป็นน้ำพริกปลาทูคั่วแห้งสามารถเก็บไว้รับประทานนานกว่า โดยรสชาติคงเดิม ไม่มีสารกันบูดเจือปน เลือกสรรเครื่องปรุงตามธรรมชาติที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น โดยป้าแดง ได้เล่ากระบวนการและขั้นตอนการทำน้ำพริกกากหมู และน้ำพริกปลาทูคั่วแห้งอย่างละเอียด ดังต่อไปนี้
ส่วนผสม น้ำพริกกากหมู
1 .มันหมูแข็งไม่ติดหนังหั่นเต๋า 3 กก.
- เกลือป่น 3/4 ชต. (ใส่ตอนเจียวมันหมู)
3 .น้ำส้มสายชู 1 ชต.
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- หอมแดงซอยบางๆ 500 กรัม
- กระเทียมไทยบดหยาบๆ 400 กรัม
- พริกป่น 6 ชต.
- เกลือป่น 1/2 ชช. (ใส่ตอนปรุงรส)
- ผงปรุงรสหมู 2 ชต.
- น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก 5 ชต. (เม็ดเล็กจะละลายง่าย)
- น้ำมันหมู 2-3 ชต.
วิธีทำ น้ำพริกกากหมู
- หั่นมันหมูแข็งให้เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส (ลูกเต๋า) ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะเวลาทอด มันหมูจะหดตัวลงปอกเปลือกกระเทียมแบบเหลือเปลือกไว้เล็กน้อย นำเข้าเครื่องบด หรือสับพอหยาบๆ
2.นำเกลือป่น มาคลุกเคล้ากับมันหมูให้เข้ากัน
- ใส่น้ำส้มสายชูลงไปในมันหมู จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่า ตามด้วยมันหมู เปิดแก๊สใช้ไฟแรง แล้วคอยคนมันหมูเรื่อยๆ
- เมื่อผัดไปได้สักระยะ น้ำที่ใส่ไปตอนแรกจะแห้งลง และน้ำมันหมูจะเริ่มออกมาแทนที่ เมื่อได้แบบนี้ให้ปรับไฟเป็นไฟกลางค่อนอ่อน แล้วผัดไปเรื่อยๆ
- เมื่อน้ำมันหมูออกมาเยอะจนท่วมมันหมูแล้ว ให้ปรับไฟลงเป็นไฟอ่อน
- สังเกตดูน้ำมันในกระทะถ้าน้ำมันนิ่งสนิทแล้วแสดงว่าไขมันของกากหมูออกมาเต็มที่แล้ว ให้ตักกากหมูขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ตัวกากหมูจะมีสีเหลืองทอง
- นำน้ำมันหมูที่เหลือแบ่งครึ่งมาเจียวกระเทียมและหอมแดง
- ใช้ไฟกลางค่อยอ่อน จากนั้นค่อยๆ ใส่หอมแดงซอยลงไปทีละน้อย คนจนกระทั้งหอมแดงเหลืองทอง ก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- จากนั้น ค่อยๆ ใส่กระเทียมลงไปเจียวในกระทะ คนจนกระทั่งกระเทียมเป็นสีเหลืองทอง ก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันหมูประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่พริกป่น แล้วคั่วจนพริกหอมดี ใส่กากหมู ตามด้วยกระเทียมเจียว และหอมแดงเจียว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เติมเครื่องปรุง เกลือป่น ผงปรุงรส และน้ำตาลทรายขาว
วัตถุดิบและส่วนผสมน้ำพริกปลาทูคั่วแห้ง
ปลาทูย่าง 4 ตัว
พริกจินดาสีแดงสด 20-25 เม็ด
พริกหยวก 5 เม็ด
หัวหอม 5 หัว
กระเทียมกลีบใหญ่ 10 กลีบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
ใบตองสำหรับห่อปลาทู
ไม้จิ้มฟัน (เอาไว้กลัดใบตอง)
น้ำมันพืช
น้ำพริกปลาทูคั่วแห้ง อยู่คู่สำรับของคนไทยมาช้านาน เมนูนี้มีวิธีทำที่ค่อนข้างเยอะ โดยจะใช้การปรุงน้ำพริกให้อร่อยด้วยการใช้ครก เพราะครกเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไทย และเชื่อว่าการตำอาหารด้วยครกจะทำให้อาหารอร่อย เพราะการตำจะทำให้รสชาติและสารต่างๆ ในพืชผักที่ถูกตำออกมา ทำให้ได้รสชาติดีกว่าการใช้เครื่องปั่น ซึ่งน้ำพริกปลาทูคั่วแห้งมีขั้นตอนการทำดังนี้
1.เริ่มต้นด้วยการให้ตั้งกระทะโดยใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้กระทะไหม้ แล้วทำการใส่พริกหอมแดงและกระเทียมลงไปคั่วให้สุกหรือให้มีกลิ่นไหม้เล็กน้อย จากนั้นให้นำไปพักไว้ แล้วนำพริกหยวกลงไปคั่วต่อให้สุกเหมือนกัน
2.จากนั้นนำปลาทูที่ซื้อมาห่อด้วยใบตองแล้วนำไม้จิ้มฟันมาขัดหัวท้ายไว้ แล้วนำไปย่างหรือนำลงจี่ไฟในกระทะ ให้ใบตองไหม้เล็กน้อย โดยจะมีกลิ่นหอมของใบตอง
3.นำพริกจินดาสีแดงสด กระเทียม และหัวหอมแดงที่คั่วเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาแกะเปลือกเอาส่วนที่ไหม้ออก แล้วแกะพริกหยวกที่คั่วไว้ โดยเอาส่วนเปลือกที่ไหม้ออกเช่นกัน และเอาไส้ของพริกหยวกและเม็ดด้านในออกด้วย หลังจากนั้น แล้วนำไปตำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันจนเป็นเนื้อละเอียด
4.เมื่อตำทุกอย่างเข้ากันจนละเอียดดีแล้ว ให้ทำการแกะเนื้อปลาทูที่เราย่างหรือจี่ไว้ โดยแกะเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อปลา จากนั้นนำลงไปตำเข้ากับส่วนผสมที่เตรียมไว้ต่อมาทำการปรุงรสชาติน้ำพริกด้วย น้ำตาลทราย น้ำปลา และมะนาว ให้ได้รสชาติตามความชอบ
นอกจากนี้กลุ่มพวกเราชาวเมืองแฝกโอชายังได้ลงพื้นที่เข้าไปสำรวจสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมศึกษาและให้ความรู้แก่ชาวบ้านใน ตำบลเมืองแฝกโครงการน้ำพริกกากหมูเมืองแฝกเลิศรส เสริมรายได้ ขยายเศรษฐกิจชุมชน และโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเมืองแฝกแข็งแรง น้ำพริกปลาทูคั่วแห้งโอชา จะจัดขึ้นใน วันเสาร์ที่ 20-21 สิงหาคม 2565 ณ ศาลากลางหมู่บ้านหนองเก้าข่าอีกด้วย
ทั้งนี้กลุ่มเมืองแฝกโอชาของเรายังได้มีการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มศักยภาพการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ด้วยการใช้ใช้เทคโนโลยีกราฟิกดีไซน์สวยเก๋ น่าสนใจในการจับต้องและสะดวกในการรับทานอีกด้วย