ประชากรส่วนใหญ่ในตำบลประโคนชัยมีอาชีพทำนา รองลงมา เลี้ยงสัตว์ ค้าขาย การทำนาก็มีหลายวิธี
ตามยุคตามสมัยถ้าแต่ก่อนหว่านกล้า แล้วถอนกล้ามาดำนา แต่ปัจจุบันการทำนาดำจะไม่ค่อยจะเห็นแล้วเพราะอาจจะเป็นกับธรรมชาติฝนตกไม่ตามฤดูกาลรวมกับค่าแรงก็แพงเลยกลับมาทำนาต้มแทน
จากการได้พูดคุยกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 นายประเสริฐ ไชยปลัด เรื่องการทำนาต้ม ส่วนมากนิยมทำแถวภาคกลาง ทำนานอกฤดูหรือ เรียกว่า นาปรัง คือการหว่านข้าวบนดินที่เปียกและมีน้ำขัง แต่บ้านเราเรียกว่า การทำนาต้ม การทำนาต้มบ้านเราไม่นิยมเพราะอาศัยน้ำจากธรรมชาติเพียงอย่างเดี่ยว จะทำก็ต่อเมื่อฝนมาเร็วเกินไป ฝนไม่ทิ้งช่วง ที่นาเปียกตลอด วิธีทำนาต้มดังนี้
1. เตรียมพันธ์ุข้าว จะหว่านเมล็ดข้าวแห้ง หรือจะเอาไปแช่น้ำ 1 วัน อบหรือหมักในถุง 1 คืน เพราะจะทำให้หงอกเร็ว
เมล็ดข้าวที่อบไว้
เมล็ดข้าวแห้ง
2. รถไถปั่นดินให้เป็นโคลนหรือมีน้ำก็ได้
นาที่มีน้ำขัง
ปั่นให้วัชพืชหรือผลิกหน้าดินและให้เรียบ
3. ใช้คนหว่านมือหรือเครื่องพ่นหว่านก็ได้
ใช้เครื่องพ่นหว่านข้าว
หลังจากหว่านข้าวเสร็จแล้วจะเช่น้ำสักหนึ่งคือก็ได้ แล้วต้องระบายน้ำออกหรือดูดออกให้มด ถ้ามีน้ำขังเมล็ดข้าวจะเน่าเสียได้ก็ใช้พันธุ์ข้าวเปลือก
25 – 30 กิโลกรัมต่อไร่ เหมือนหว่านข้าวทั่ว ๆ ไป เมื่อหงอกก็ดูแลตามเวลาปกติตามอายุข้าว