ข้าพเจ้า นายภควัต ล้อมกระโทก ผู้ปฏิบัติงาน ประเภทบัณฑิต ตามโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development) ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ปฏิบัติงานภายในชุมชน ตำบลหนองกี่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
หลักสูตร: ED19-2 คณะครุศาสตร์
ที่มาและความสำคัญ :
ตามตำนานเล่ากันว่านางอรพิมพ์ สาวงามแห่งเมืองพิมายออกเดินทางมาหาคนรักชื่อปราจิตซึ่งท้าวพรหมทัต เจ้าเมืองพิมายขี้เมากลั่นแกล้งสั่งให้ออกรบทัพจับศึกชายแดนเขมร โดยออกเดินทางมาเป็นเวลาแรมคืน พอถึงลำน้ำมูลนางอรพิมพ์ได้อาศัยเรือของสามเณร สามเณรพอใจหลงรักไม่ส่งขึ้นฝั่ง จึงลอยเรือต่อไป จนกระทั่งถึงต้นมะเดื่อริมน้ำ นางอรพิมพ์หิวกระหาย จึงพยายามขอร้องสามเณรเก็บให้กิน เมื่อสามเณรขึ้นต้นมะเดื่อนางอรพิมพ์ จึงหาหนามและมดแดงวางขวางปิดกั้นทางลง และรีบพายเรือหนี เมื่อขึ้นฝั่งมาถึงหนองน้ำใหญ่ ได้เข้าไปขออาศัยอยู่กับชาวไร่ชาวป่าเพื่อพักพิง นางอรพิมพ์คิดว่าเดินทางคนเดียวคงไม่ปลอดภัย จึงได้ขอบริจาคผ้าขาวจากชาวไร่ ชาวป่า เพื่อมาทอเป็นผ้าขาวเตรียมตัวบวชริมหนองน้ำ ชื่อว่า “หนองกี่” และเป็นชื่อบ้านหนองกี่ อำเภอหนองกี่ในปัจจุบัน ต่อมามีเรื่องเล่าขานกันว่า ที่หนองน้ำหนองกี่ จะมีปรากฎการณ์อภินิหาร มีกี่ทอง (เสากี่ทองคำ) ลอยขึ้นมากลางหนองน้ำในวันเพ็ญหรือวันพระสำคัญ ๆ สักครู่หนึ่งและจมหายไป ในปัจจุบันจึงเรียกว่า สระหนองกี่
ศาลเจ้าพ่อขุนศรีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษา คุ้มครอง เป็นที่ศรัทธาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนชาวหนองกี่ ที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อขุนศรี อยู่บริเวณเกาะกลาง โดนมีสระน้ำล้อมรอบเรียกว่าสระหนองกี่ ปัจจุบันเป็นสวนสุขภาพศาลเจ้าพ่อขุนศรี ซึ่งมีประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อขุนศรีประจำทุก ๆ ปี
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ มอบหมายให้ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองกี่ ร่วมงานประเพณีบุญเดือนสาม พิธีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อขุนศรี ประจำปี 2565 โดย นายอำเภอหนองกี่ เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนชาวหนองกี่ ณ สระน้ำสวนสุขภาพศาลเจ้าพ่อขุนศรี