เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการเลี้ยงตัวไหมก่อน เพราะกว่าจะได้ผืนผ้าที่สวยงามตามที่ลูกค้าทั่วไปสนใจและชอบผ้าไหมของเราว่าผ่านกรรมวิธีอะไรบ้าง
เริ่มต้นด้วยการเลี้ยงตัวไหมมีตั้งแต่วัยอ่อนจนถึงวัยแก่ที่จนตัวไหมสุกและออกมาเป็นตัวไหมให้ได้เส้นไหมที่สวยงามจึงนำไปทำการฟอกย้อมสีตามที่ลูกค้าต้องการ
วิธีการสาวไหม
1. ต้มน้ำให้เดือดพอประมาณ 70-80 องศา จากนั้นใส่รังไหมพอประมาณ30-40 รัง เพื่อทำให้ความร้อนจากน้ำช่วยละลายโปรตีนที่ยึดเส้นไหม
2. ใช้ไม้พายเล็กๆแกว่งตรงกลางไม้ที่เป็นแฉกคนรังไหมให้จมน้ำเสียก่อน
3.เมื่อรังไหมลอยขึ้นมาค่อยตะล่อมให้รวมกันแล้วค่อยต่อยเส้นไหมออกมาจะได้เส้นไหมที่มีขนาดเล็กและรวมเส้นไหมหลายๆเส้นรวมกัน
4. ดึงเส้นไหมออกมาตามรอยแฉกของไม้หีบซึ่งจะทำให้เส้นไหมสม่ำเสมอและเส้นไหมที่สาวได้จะผ่านไม้หีบขึ้นไปร้อยกับพวงสาวที่ยึดติดกับปากหม้อ จากนั้นก็สาวดึงใส่กระปุงที่รองรับเส้นไหม
5.คอยเติมรังไหมให้เต็มปากหม้อเป็นระยะ
6. รังไหมจะถูกสาวจนหมดจนทำให้เป็นตัวดักแด้
ชนิดของเส้นไหม จะมีอยู่ 2 ชนิด คือเส้นไหมน้อยหรือเส้นไหมหนึ่งเป็นเส้นไหมที่ได้จากการสาวไหมชั้นนอกออกไว้ต่างหากหรือเรียกอีกอย่างว่า’ไหมลีบ’ นำรังไหมมาต้มครั้งที่สองถึงจะได้เส้นไหมที่ไม่มีปุ่มและเป็นเส้นไหมที่สวยงามคุณภาพดี นิยมใช้เป็นเส้นยืน
ไหมสองหรือไหมกลาง เป็นเส้นไหมที่สาวรองเส้นไหมนอกและไม่ต้องแยกรังไหมให้ออกคนละพวกใช้วิธีสาวไหมไปเรื่อยๆๆพอรังไหมใกล้หมดก็เติมรังไหมเข้าไปเพิ่มอีกจนรังไหมหมดซึ่งเส้นไหมจะมีขนาดโตส่วนมากจะนำมาทำเป็นเส้นพุ่งในการทอ
การเตรียมขั้นตอนการทอผ้าไหม
1. การเตรียมเส้นไหม
2. การลอกกาวเส้นไหมทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืนโดยกรรมวิธีการใช้สีธรรมชาติ
3. การเตรียมฟืมทอผ้า
4. การย้อมเส้นไหมยืน
5. การเตรียมเส้นไหมยืน
6.การต่อเส้นไหมยืน
7. การเตรียมเส้นพุ่งที่ย้อมสีต่างๆๆ
8. การกรอเส้นพุ่งเข้าหลอด
สรุปทั้งหมดทุกขั้นตอนนี้คือการทอผ้าไหมที่ออกมาเป็นผืนผ้าที่สวยงามและเป็นการเอาใจใส่ต่อลูกค้า และเป็นการเพิ่มมูลค่าของผ้าไหมได้เป็นอย่างดีค่ะ