เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในอำเภอประโคนชัย ที่มีบรรยากาศดี เหมาะแก่การมาทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการพาเด็กๆมาดูนก มาทัศนศึกษา หรือจะเป็นการมาออกกำลังกายในช่วงเย็น ไม่ว่าจะเป็นการมาเดิน มาวิ่ง หรือปั่นจักรยาน ตัวผมเองได้มาออกกำลังกายที่นี่เป็นประจำ เลยอยากจะเชิญชวน พี่ๆน้องๆ ทุกท่านที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อน หรือมาออกกำลังกาย ที่อ่างเก็บน้ำสนามบินเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ต้องมาซักครั้งหากได้มาอำเภอประโคนชัย
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินอำเภอประโคนชัย เป็น 1 ใน 4 พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติของบุรีรัมย์ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ หรือเข้าค่ายพักแรม พักผ่อนหย่อนใจ และกิจกรรมดูนก ซึ่งสำรวจพบแล้วพบนกมากกว่า 170 ชนิด ได้แก่ นกอ้ายงั่ว นกเป็ดหงส์ เป็ดดำหัวดำ เป็นแหล่งดูนกน้ำ ซึ่งนกบางชนิดเป็นนกที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก เช่น นกเป็ดหงส์ และนกสายพันธํนี้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบันเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินยังเป็นพื้นที่ทดลองปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติด้วย ข้อมูลเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินมีพื้นที่ประมาณ 3,568 ไร่ นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ใช้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินเป็นที่จอดเครื่องบินเพื่อรับ – ส่งเสบียงสำหรับทำสงคราม แต่เมื่อเหตุการณ์สงครามสงบและยุติลง ทางราชการได้เก็บรักษาพื้นที่แห่งนี้เป็นสาธารณะประโยชน์แก่ประชาชนไว้สำหรับพักผ่อนของชาวอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน นกที่พบเห็นได้ทั่วไปส่วนมากคือ นกช้อนหอย เป็ดหงส์ นกเป็ดเทา เป็นต้น ทางทีมงานบุรีรัมย์กูรูแนะนำให้นักท่องเที่ยวมาช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมีนาคมซึ่งจะพบเห็นนกได้มากในช่วงนี้ การเดินทาง สำหรับการเดินทางมาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากตัวเมืองบุรีรัมย์ตามทาง หลวงหมายเลข 219 ไปประโคนชัยราว ๆ ประมาณ 41 กิโลเมตร ก่อนถึงอำเภอประโคนชัยประมาณ 4 กิโลเมตร เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินจะตั้งอยู่ด้านซ้ายมืออาณาเขตท้องที่อำเภอประโคนชัย
กิจกรรม
นักเรียนจากโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน
นักเรียนโรงเรียนอนุบาลกัลยาประสิทธิ์และคณะอาจารย์ผู้ดูแล ตามโครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน
กิจกรรมของครอบครัวในช่วงเย็น การมาพักผ่อน ดูนก บริเวรรอบอ่างเก็บน้ำสนามบินเก่า
นกกระเรียนพันธุ์ไทย
ปัจจุบันเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินยังเป็นพื้นที่ทดลองปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติ นกกระเรียนพันธุ์ไทยเป็นนกบินได้ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อยืนจะสูงถึง 1.8 เมตร สังเกตเห็นได้ง่าย ในพื้นที่ชุ่มน้ำเปิดโล่ง นกกระเรียนไทยแตกต่างจากนกกระเรียนอื่นในพื้นที่เพราะมีสีเทาทั้งตัวและมีสีแดงที่หัวและบริเวณคอด้านบน หากินในที่ลุ่มมีน้ำขังบริเวณน้ำตื้น กินราก หัว แมลง สัตว์น้ำ และสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กเป็นอาหาร นกกระเรียนไทยเหมือนกับนกกระเรียนอื่นที่มักมีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิต นกกระเรียนจะปกป้องอาณาเขตและเกี้ยวพาราสีโดยการกางปีก ส่งเสียงร้อง กระโดดซึ่งดูคล้ายกับการเต้นรำ ในประเทศอินเดียนกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ในชีวิตแต่งงาน เชื่อกันว่าเมื่อคู่ตาย นกอีกตัวจะเศร้าโศกจนตรอมใจตายตาม ฤดูผสมพันธุ์หลักอยู่ในฤดูฝน คู่นกจะสร้างรังเป็นเกาะ รูปวงกลมจากกก อ้อ และพงหญ้า มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตรและสูงเพียงพอที่จะอยู่เหนือจากน้ำรอบรัง
นกที่พบในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน
นกอ้ายงั่ว
นกตีนเทียน
นกหัวโตเล็กขาเหลือง
นกทะเลขาเขียว
นกชายเลนปากโค้ง
นกกระสานวล
นกยางเปีย
นกกาน้ำปากยาว
นกกระเรียนพันธุ์ไทย