การดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย หรือการจะเป็นพลเมืองดีตามระบอบวิถีประชาธิปไตยนั้น ก่อนอื่นประชาชนจำเป็นต้อง มีความเข้าใจเสียก่อน จึงจะมีวิถีชีวิตระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้ โดยประชากรจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติภาพ , สันติสุข , เสรีภาพ ประชาชนทุกคนในสังคมจะต้องเต็มไปด้วยความสุข , ปลอดภัย รวมทั้งมีอิสระที่จะกระทำการใดๆตามต้องการ แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย สำคัญ คือ ต้องไม่ล่วงละเมิดสิทธิ – เสรีภาพของผู้อื่น

โดยประชาชนจะต้องทำความเข้าใจในลักษณะของประชาธิปไตยเสียก่อน ซึ่งมี 3 ลักษณะ ได้แก่

  • ประชาธิปไตยตามแบบอุดมคติ หมายถึง การมีศรัทธาอย่างแรงกล้า , มีความเชื่อมั่นในเหตุผล , มีความสามารถ , มีความเชื่อมั่นในอิสรภาพและเสรีภาพของมนุษย์
  • ประชาธิปไตยตามแบบระบบการเมือง รวมทั้งวิธีการจัดระเบียบการปกครอง หมายถึง ระบบการเมืองซึ่งถือว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
  • ประชาธิปไตยในแบบวีถีชีวิต หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ การอยู่รวมกันรวมทั้งปฏิบัติตัวต่อกันด้วยความเสมอภาค โดยเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคน ทำตามชอบแต่ต้องไม่ก้าวก่ายในสิทธิของผู้อื่น มีการเคารพ

    สังคมแบบประชาธิปไตยประชาชนต้องปฏิบัติต่อกัน ดังนี้

    • มีความเคารพในสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล ตามขอบเขตของกฎหมาย
    • มีการใช้หลักเหตุ – ผลในการตัดสินปัญหาหรือข้อขัดแย้งต่างๆในสังคม
    • เคารพตามกฎ-กติกาของสังคม เพื่อเป็นการรักษาความสงบสุข รวมทั้งความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม
    • เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของส่วนรวม
    • มีน้ำใจแบบประชาธิปไตย คือ เป็นคนใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น แล้วนำมาตรึกตรอง และต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน

สรุปได้ว่า ประชาธิปไตย สามารถแบ่งความหมายออกเป็นสองอย่าง ได้แก่ ประชาธิปไตยของการดำรงชีวิต ร่วมกันของสมาชิกในสังคม คือ รูปแบบของพฤติกรรมมนุษย์ซึ่งสอดคล้องเข้ากันกับหลักการของประชาธิปไตย และความหมายทางการปกครองในสังคม คือ การปกครองที่ประชาชนมีอำนาจรวมทั้งมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการปกครองตนเอง จากการกำหนดนโยบายในการปกครองประเทศ ซึ่งมีการคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นหลัก