การเลี้ยงปลาดุกในกระชังบก
ชุมชนตำบลดอนกอกนั้น มีอาชีพหลักคือการทำนา ทอผ้าไหม อาชีพเสริมอีกอย่างที่นิยมกันคือการเลี้ยงปลาดุก ปลาดุกเป็นปลาที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีและมีความนิยมบริโภค สามารถเลี้ยงเพื่อสร้างอาชีพเสริมหรือเลี้ยงจำหน่ายเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้เป็นอย่างมากเพียงแค่มีการเอาใจใส่ และหาความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในกิจการของตนอยู่เสมอ
ปลาดุกเลี้ยงง่าย โตไว ทนทานต่อสภาพอากาศบ้านเราเป็นอย่างดี ปลาดุกมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาดุกนา ปลาดุกเทศ ปลาดุกด้าน ปลาดุกบิ๊กอุย ปลาดุกอุย เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการเลี้ยงในกระชัง การเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ การเลี้ยงในวงบ่อ การเลี้ยงในโอ่งดิน ในครั้งนี้จะกล่าวถึงการเลี้ยงปลาดุกในกระชังบก เพื่อการบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ซึ่งการเลี้ยงปลาดุกในกระชังงบกประหยัดพื้นที่กว่าการเลี้ยงในบ่อดินและลงทุนน้อยกว่าการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ เคลื่อนย้ายง่ายสะดวกในการขนย้ายหรือปรับเปลี่ยนสถานที่ในการเลี้ยง อัตราการปล่อยลูกปลาดุก ขนาด 2-3 เซนติเมตร ควรปล่อยประมาณ 50 ตัว/ตารางเมตร ระดับน้ำ 20-30 เซนติเมตร เมื่อลูกปลาโตขึ้นให้เพิ่มระดับน้ำไปตามลำดับ ปลาดุกกินอาหารได้ทั้งพืชและสัตว์ เกษตรกรสามารถใช้ รำป่น เศษปลา อาหารเม็ด หรือหาผักตบชวามาลอยในบ่อเพื่อเป็นอาหารและปรับสภาพน้ำไปด้วย โดยส่วนมากเกษตรกรนิยมใช้อาหารเป็ด ซึ่งข้อเสียของอาหารเม็ดนั้นคือทำให้น้ำเน่าเสียเร็ว
การเกิดโรคของปลาดุกที่เลี้ยงในบ่อพลาสติก มักจะเกิดจากคุณภาพน้ำเน่าเสียจากการใช้อาหารเป็ด เกษตรกรจึงควรถ่ายเปลี่ยนน้ำในบ่อเดือนละ 1 ครั้ง และไม่ควรใช้อาหารมากเกินไปเพราะทำให้น้ำเน่าเสียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรค เมื่อลูกปลาเลี้ยงได้ประมาณ 3-4 เดือน จะมีขนาด 200-400 กรัม/กิโลกรัม เกษตรกรสามารถจับขายได้ในราคา 80 บาท/กิโลกรัม ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างดี สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวหรือเลี้ยงเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่าย เพราะปลาดุกรสชาติอร่อยและทำอาหารได้หลากหลายชนิด ในสภาพเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้หันมาเลี้ยงปลาดุกเพื่อบริโภคและเป็นอาชีพเสริมกันค่ะ
:: เทคนิคการเลี้ยงปลาดุกให้ได้ราคาดีและไม่มีกลิ่นคาวควรงดให้อาหารก่อนจำหน่าย ::