ทำความเข้าใจการเกษตรผสมผสาน
ด้วยความที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้มนุษย์ต้องเปลี่ยนแปลงตาม แม้กระทั่งการทำการเกษตรเองก็เช่นเดียวกัน จากการทำการเกษตรแบบเก่าอาจไม่ตอบโจทย์ ความต้องการของมนุษย์ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นการเกษตรจึงมีการพัฒนา จนกระทั่งกลายเป็นการทำเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งทำให้สามารถได้รับผลผลิตดีขึ้น สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง มาใช้จ่ายในครอบครัวและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สำหรับวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับการทำเกษตรแบบผสมผสานกันค่ะ
การทำการเกษตรผสมผสาน คือการปลูกผักและเลี้ยงสัตว์หลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน
โดยในแต่ละกิจกรรมจำเป็นต้องมีการวางแผนกันอย่างสอดคล้อง เพื่อให้เกิดผลผลิตดีที่สุด เกิดการหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรหรือผู้ที่ทำเกษตรมีกินมีใช้ตลอดทั้งปี
เริ่มจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ได้แก่ ไร่นา, น้ำ, แสงแดด, ดินและอากาศ ซึ่งต้องนำปัจจัยเหล่านี้มาผสมผสานกัน จนกระทั่งให้เกิดความเหมาะสม ตามในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งก่อให้เกิดสมดุลระหว่างธรรมชาติอย่างยั่งยืน สำหรับข้อดีของการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ก็คือ การสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง ให้แก่เกษตรกรในยามที่ต้องรอคอยผลผลิตจากพืชผัก ก็สามารถนำผลผลิตจากสัตว์ไปขาย และนำมารับประทานก่อนได้ ทำให้เกิดรายได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นการลดการขอความช่วยเหลือจากภายนอก ทำให้เกษตรกรสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ภายใน 1 ที่ดิน ต้องจัดสรรให้มีสิ่งเหล่านี้
• มีนาเพื่อปลูกข้าว
• มีพื้นที่ปลูกไม้ผล
• มีพื้นที่ปลูกพืชผัก
• ขุดบ่อเลี้ยงปลา, เลี้ยงไก่, เลี้ยงกบเลียนแบบธรรมชาติ, เลี้ยงควายหรือเลี้ยงสัตว์ตามแต่สะดวก
รวมทั้งใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหลือใช้ในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เช่น นำมูลของสัตว์มาทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ ส่วนรากไม้หรือกิ่งไม้แห้งก็นำไปตากแดด เพื่อนำมาทำถ่านฟืน

วันนี้เราจะมายกตัวอย่างถึงชาวบ้านเกษตรกรชาวบ้านหนองบัว ตำบลดอนกอก อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์กันค่ะ คุณพ่อณรงค์เดช สุวรรณโครต มีจุดเริ่มต้นที่ผันตัวมาทำเกษตรผสมผสาน เพราะทำนาไม่ค่อยได้ผลผลิตเท่าที่ควร จึงมองว่าควรปรับพื้นที่ที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถสร้างรายได้ได้ตลอดทั้งปี โดยคุณลุงมีพื้นที่ทำนาทั้งหมด 33 ไร่ โดยแบ่งทำเกษตรผสม 4 ไร่ ประกอบด้วย ขุดสระไว้เลี้ยงปลา ขุดบ่อเลี้ยงกบโดยเลียนแบบธรรมชาติ เลี้ยงไก่ไข่ ทำคอกไก่ขนาด 10×5 เมตร เลี้ยงควยเพื่อใช้มูลควายหรือขี้ควายไว้ทำปุ๋ย ปลูกผักและผลไม้ล้อมรอบพื้นที่ทั้งหมด จัดสรรพื้นที่ตามความเหมาะสม ซึ่งคุณลุงได้ให้สัมภาษว่า การทำเกษตรผสมผสานเปลี่ยนชีวีตชาวนาให้ดีขึ้น มีพืชผักไว้ทานเองโดยไม่ต้องซื้อ มีกบ มีปลา มีครบทุกอย่าง และยังมีความสุขที่ได้มองเห็นในสิ่งที่ตนได้ลงทุนลงแรงทำขึ้นมาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นความสุขของวัยเกษียรที่หลายๆคนพึงอยากจะมี นอกจากนี้คุณลุงณรงค์เดช ยังเปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม และอยากได้คำแนะนำต่างๆเกี่ยวกับการทำเกษตรผสมผสาน คุณลงยินดีต้อนรับและพร้อมให้ความรู้กับผู้ที่สนใจทุกคนด้วยนะคะ

สำหรับใครที่อยากจะแวะมาเยี่ยมชมสามารถโทรสอบถามคุณลุงณรงค์เดชได้ที่ เบอร์โทร 069-3093913