ข้าพเจ้า นางสาวศิญาภรณ์ หมวกไธสง ผู้ปฎิบัติงานในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ( U2T for BCG) ประเภทบัณฑิตจบใหม่ AG08 -2 ตำบลบ้านดู่ อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์
ในเดือนสิงหาคม ได้รับมอบหมายให้มีการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล TCD จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านดู่ บ้านหัวช้าง บ้านโนนม่วง จากการสำรวจข้อมูล TCD ในพื้นที่บ้านโนนม่วง หมู่ 7 ตำบลบ้านดู่ อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการสอบถามประชาชนภายในชุมชนว่า คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอะไรบ้าง จากการสอบถามพบว่ามีการประกอบอาชีพ ทำนา ค้าขาย รับราชการ เลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ ดังนั้นดิฉันจึงได้มีโอกาสพูดคุยสอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ กอมณี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนม่วง หมู่ 7 ซึ่งมีการประกอบอาชีพเสริมคือการเลี้ยงหนูพุกหรือหนูนา มีชื่อฟาร์มว่า โนนม่วงฟาร์มหนูนา เป็นการเลี้ยงหนูนาเพื่อเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และขายให้ผู้ที่สนใจนำไปเลี้ยง และขายเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการสร้างรายได้ เสริมสร้างอาชีพให้กับครัวเรือนของตนเอง
โดยการเลี้ยงหนูพุกหรือหนูนา จะใช้วิธีง่ายๆ ใช้อุปกรณ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป โดยบ่อที่ใช้เลี้ยงใช้บ่อซีเมนต์ตั้งขึ้นซ้อนกันให้สูงขึ้น ประมาณ 2 – 3 ชั้น และนำแกลบมารองพื้นในท่อซีเมนต์ จากนั้นนำหนูพุกหรือหนูนา ที่มีอายุ 2 สัปดาห์ มาลงเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ โดย 1 บ่อซีเมนต์ จะเลี้ยงเพียง 10 ตัว เพื่อไม่ให้หนูต้องแย่งอาหารกัน และ ไม่แน่นอึดอัดจนทำให้เกิดความเครียด หากหนูนาเกิดความเครียดอาจทำให้ทำร้ายกันเองและทำให้อัตราการรอดชีวิตลดน้อยลง หลังจากที่นำหนูนาลงมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ก็จะนำท่อพีวีซี ขนาดครึ่งวงกลม 10 ซม. เพื่อให้เป็นที่หลับนอน หรือที่หลบภัยของหนูนา
การให้อาหาร
ในช่วงแรกที่อายุอยู่ระหว่าง 2-4 สัปดาห์ จะให้รำอ่อนผสมกับปลายข้าวให้เป็นอาหาร แต่พอเมื่อหนูพุกหรือหนูนา อายุ 5 สัปดาห์ ขึ้นไป จะเริ่มให้หญ้าอ่อน รำข้าว และ ปลายข้าว ผสมกันไป เพื่อให้หนูพุกได้ทานหลากหลาย การให้น้ำจะมีขวดให้น้ำในบ่ออยู่ตลาดตั้งแต่เริ่มนำหนูลงบ่อ ให้คอยสังเกตว่าน้ำในขวดนั้นหมดหรือยัง หากหมดก็นำน้ำไปเติม ส่วนการให้อาหารก็จะให้ช่วงเช้ากับช่วงเย็นเพียงเท่านั้น เลี้ยงเป็นคู่ไว้ประมาณ 25 วัน หนูก็จะผสมพันธุ์และเริ่มตั้งท้อง ซึ่งแม่พันธุ์ 1 ตัว จะออกลูกประมาณ 8-10 ตัว เมื่อแม่พันธุ์เริ่มตั้งท้องให้จับพ่อพันธุ์แยกออกจากบ่อ เพราะหนูตัวผู้จะกินลูกหนูที่พึ่งคลอดเพราะผิดกลิ่น หนูนาจะใช้เวลาตั้งท้องอยู่ที่ 1 เดือนก็จะคลอดลูก ก็ให้แม่หนูเลี้ยงลูกหนูพุกด้วยนมของเค้าอีกประมาณ 1 เดือนค่อยจับแม่พันธุ์แยกออกมา
จากนั้นเมื่อลูกหนูพุกหรือหนูนา โตอายุตั้งแต่ 3- 4 เดือนขึ้นไปก็จะนำหนูที่โตเต็มที่ดีแล้วหนูจะตัวโตเต็มที่ มีน้ำหนักประมาณตัวละ 5-6 ขีด มาคัดเพื่อจำหน่ายเป็นพันธุ์หนูพันธุ์ดีให้กับผู้ที่สนใจหรือเกษตรกรที่ต้องการจำหน่ายเพื่อเสริมรายได้ การเลี้ยงหนู 1 ตัว จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 50 บาท หากขายเป็นหนูเนื้อ จะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 200-250 บาท แต่ถ้าขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ ก็จะได้ราคาดีกว่า ตกคู่ละ 800-1,000 บาท แถมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เลี้ยงไว้ มีความเชื่อง ไม่ดุร้าย ไม่กระโดดหนี หรือกัดคนที่เข้าใกล้ จะมีน้ำหนักตัวละกว่า 2 กิโลกรัม เพราะใช้อาหารหมูเลี้ยง จึงถือว่าได้กำไรสูงมาก ขณะที่ความต้องการของตลาดก็มากเช่นกัน โดยเฉพาะร้านอาหารป่าและกลุ่มผู้ชื่นชอบ