นางราตรี อ่อนพันธ์ เป็นผู้รับจ้างประเภทประชาชน ประจำตำบลสระแก้ว อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG) ซึ่งได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ช่วยศาสตราจารย์สำคัญ ฮ่อบรรทัด (หัวหน้าโครงการ)และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด ดังนี้

วันที่ 1 กรกฏาคม 2565ส่งเอกสารใบรายตัวผู้ปฏิบัติงานประเภทประชาชน ช่างบ่ายเข้าร่วมอบรมออนไลน์พิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG)

วันที่ 2-4 กรกฏาคม 2565
ลงสำรวจข้อมูลพื้นฐานชาวบ้านที่ทอผ้าในตำบลสระแก้วตำบลสระแก้ว มีหมู่บ้าน 15 หมู่บ้าน ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นหลัก เลี้ยงสัตว์ เช่น สุกร โค เป็ด ไก่ เป็นอาชีพเสริม ซึ่งจะเป็นหัวหน้าครอบครัวคือผู้ชายทำเป็นหลัก ส่วนแม่บ้านจะนิยมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อทอผ้าไหมมัดหมี่ ทอผ้าขาวม้า เพื่อเอาไว้ใช้เองในครัวเรือนหลังฤดูการทำนา เหลือก็จำหน่ายแก่เพื่อนบ้านคนที่รู้จักในชุมชนหรือ หมู่บ้านไกล้เคียง

จากการลงพื้นที่พบว่าชาวบ้านมีความรู้ความชำนาญในการทอผ้าไหมมัดหมี่ เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านสืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ยาตายายจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยยุคเทคโนโ,ลยีที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทั่วทุกพื้นที่ในขณะนี้ ทำให้การทอผ้าไหมมัดหมี่ ลดความต้องการลงไปมาก เนื่องจากขั้นตอนการผลิตนั้นยุ่งยาก ใช้เวลานาน กว่าจะสำเร็จออกมาเป็นผ้าหนึ่งผืน หาซื้อผ้าในท้องตลาดง่ายกว่า ทำให้ภูมิปัญญาพื้นบ้านนี้ลดน้อยลงไปจนเกือบหมด เหลือกลุ่มผู้สูงอายุเพียงไม่กี่ท่านที่ยังทำอยู่
ปัญหาที่พบ
1 ช่องทางการขาย ชาวบ้านผลิตได้ทำเป็นแต่ ไม่รู้จะขายให้ใครไม่รู้ช่องทางในการขาย ไม่รู้ความต้องการของตลาด
2.ลายผ้าไม่ทันสมัย ไม่แปลกใหม่ เป็นลายซ้ำเดิมๆ ที่ลอกลายมาจากรุ่นสู่รุ่น สีสันฉูดฉาด
3. ขาดเงินลงทุน
4.คนรุ่นใหม่ไม่สนใจสืบทอดเพราะมองว่าไม่สามารถประกอบเป็นอาชีพได้
5.กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดิม การซื้อซ้ำน้อย ยอดจำหน่ายต่อเดือน เฉลี่ย 2500บาท (ต่อ1ผืน 1×2 เมตร ) ตั๋วเฉลี่ยรายได้ต่อปี ไม่เกิน 15000 บาท