1. ข้าพเจ้านางสาวพรรัตน์ดา ธรรมสาร ประเภทประชาชนประจำตำบลสะแกโพรง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำเดือน กันยายน  พ.ศ.2565

ดักแด้ เป็นช่วงชีวิตการเจริญเติบโตช่วงหนึ่งของแมลงหลายชนิด พัฒนามาจากหนอน หนอนที่เติบโตเต็มที่จะสร้างเส้นใยขึ้นเพื่อห่อหุ้มตนเอง แล้วอยู่นิ่งในถุงเส้นใยเพื่อพัฒนาร่างกายระยะหนึ่ง หลังจากที่ดักแด้พัฒนาแล้วก็จะออกจากถุงกลายเป็นตัวเต็มวัย ส่วนมากถุงดักแด้จะมีสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำ
ดักแด้ไหมเป็นสิ่งหนึ่งที่ได้จากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม นอกจากการนำมาบริโภคโดยตรงแล้ว ยังสามารถนำไปเลี้ยงปลาและสัตว์อื่น ๆ ทั้งนี้เพราะดักแด้ไหมมีโปรตีนสูง มีวิตามินและเกลือแร่หลายชนิดไขมันที่สกัดได้ยังนำไปผสมเพื่อทำสบู่และเทียนไขที่มีคุณภาพสูง จากการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและกรดไขมันของดักแด้ไหมพันธุ์ต่างประเทศลูก ผสมพบว่า ไหมพันธุ์ต่างประเทศลูกผสมแต่ละพันธุ์ มีองค์ประกอบทางเคมีและกรดไขมันไม่แตกต่างกัน จะเห็นได้ว่าดักแด้ไหมมีกรดไลโนเลอิคและกรดไลโนเลนิค ซึ่งกรดไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นกรดไขมันจำเป็นมีประโยชน์ต่อร่างกายคือ
• ลดไขมันในเลือด ทั้งไตรกรีเซอไรด์ และโคเลสเตอรอล
• ควบคุมให้ระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ- ลดการเกิดโรคหัวใจ
• ลดการเกิดโรคมะเร็ง
• ป้องกันการสูญเสียน้ำ ต้านรอยย่น และชะลอความแก่ของผิวหนัง

นอกจากนั้นดักแด้ไหมยังมีฟอสโฟลิปิด (phospholipid) ที่เป็นโครงสร้างของเยื่อเซลล์ทุกชนิด (เยื่อเซลล์สมอง เซลล์ประสาท เซลล์ตับ) จากการวิจัยพบว่าดักแด้มีฟอสโฟลิปิด 26.40% ที่ประกอบด้วยเลซิติน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายคือ
• ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
• ช่วยในการเสริมสร้างความจำ
• ป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

ดังนั้นดักแด้นำมาประกอบอาหารได้และยังประกอบเป็นอาชีพเลี้ยงเป็นดักแด้ไหมนำไหมมาทอเป็นผ้าไหนได้