ดิฉันนางสาว ชนมน แจ้งอารี  เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลัง โควิด ด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG) ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ทำหน้าที่รับผิดชอบตำบลท่าโพธิ์ชัย อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565  คณะอาจารย์ครุศาสตร์ มหาลัยราชภัฏบุรีรัมย์  จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ แปรรูปกล้วยฉาบมงคล ให้แก่ บัณฑิตและคณะทำงานภาคประชาชนU2Tและกลุ่มแม่บ้าน ตำบลท่าโพธิ์ชัย ณ.ศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนหมู่9ในโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลัง โควิด ด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG) ซึ่งทางโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ BCG

ในการจัดอบรมครั้งนี้มาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์สินค้าที่เกี่ยวกับการแปรรูปกล้วยฉาบ ที่จะยกระดับให้มีการพัฒนาสร้างสิ่งแปลกใหม่ ให้มีการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อวันที่10 สิงหาคม ได้จัดอบรมวิธีการทำกล้วยฉาบจากสมุนไพร ตั้งชื่อว่ากล้วยฉาบมงคล การจัดอบรมและวิธีการทำครั้งที่แล้วไม่ค่อยสมบูรณ์แบบ โดยจะเน้นรสชาติที่หวานและสีสมุนไพรแบบเข้ม   ทางคณะอาจารย์ ครุศาสตร์ที่รับผิดชอบดูแลในโครงการ U2T จึงได้เชิญ อาจารย์อำนวย ศรีคล้าย  วิทยากรด้านสาขาเกษตรอินทรีย์ จากลำปลายมาศ  ที่มาให้ความรู้และวิธีการทำกล้วยฉาบมงคลอีกรอบ ก่อนลงมือปฏิบัติจริง ทางด้านวิทยากรได้แนะนำและอธิบายประโยชน์จากกล้วยว่าสามารถนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง โดยในครั้งนี้จะเน้นกล้วยฉาบมงคลให้มีหลายรสชาติสมุนไพร ที่ไม่เน้นสี แต่เน้นประโยชน์แก่สุขภาพร่างกายแก่ผู้บริโภค สมุนไพรที่ใช้เป็นหลักในการแปรรูปกล้วยฉาบมงคล ได้แก่

1.ใบเตย    ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียดับกระหายคลายร้อน และมีกลิ่นหอม

2.ขมิ้น ต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยบำรุงตับ

3.ดอกอัญชัน   เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายและมีกลิ่นอ่อนๆของดอกอัญชัน

4.มะนาว   ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะช่วยแก้อาเจียน เป็นลมวิงเวียนศีรษะ

5.กระเจี๊ยบ ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย

6.ขิง ช่วยให้ระบบขับถ่ายในร่างกายดีขึ้นช่วยรักษาอาการร้อนในขับล้างสารพิษ

ในส่วนวิธีขั้นตอนการทำกล้วยฉาบมงคลนั้น ทางด้านวิทยากรสาธิตให้ชมและอธิบายการทำกล้วยฉาบมงคล วัตถุดิบที่ใช้ทำกล้วยฉาบมงคล มีดังนี้

1.กล้วยส้มหรือกล้วยน้ำว้า   2.น้ำสมุนไพรที่คั้นแบบเข้มข้น   ได้แก่ ใบเตย ขมิ้น ดอกอัญชัน มะนาว กระเจี๊ยบ ขิง

3.น้ำมัน 4.น้ำตาลทรายขาว 5.เกลืออนามัย 6.กระทะและตะหลิว 7.เตาแก๊สหรือเตาถ่าน 8.ตะแกรงหรือถาด

วิธีการทำ

1.นำกล้วยส้มหรือกล้วยน้ำว้ามาปลอก คือเอาแค่เปลือกนอกเส้นๆ ไม่ต้องเอาเปลือกออกหมด เพราะในเปลือกกล้วยมีคลอโรฟิลล์

2.ปลอกเปลือกเสร็จแล้วแช่ในน้ำผสมน้ำมะนาวหรือเกลืออนามัยต้องเน้นไอโอดีน เพื่อป้องกันไม่ให้กล้วยดำ

3.นำกล้วยมาสไลด์ให้เป็นแผ่น

4.เสร็จแล้วนำไปเคลือบกับสีน้ำของสมุนไพรที่คั้นไว้แล้ว   โดยทุกสีจะต้องเคลือบดิบก่อน น้ำสมุนไพรเอาแค่สีและกลิ่น อยู่ที่ต้องการของเรา คือ เน้นสมุนไพร ไม่เน้นความหวาน

5.เคลือบสีกล้วยเสร็จนำไปผึ่งแดดให้แห้ง

6.ตั้งน้ำมันให้ร้อน เอากล้วยที่เคลือบสีและแห้งแล้วนำมาทอด โดยคอยคนอย่าให้กล้วยติดกัน ทอดจนสุกเหลือง พอสุกแล้วก็ตักขึ้นพักไว้ วิธีสังเกตว่า กล้วยสุกฉาบยัง คือ สังเกตฟองน้ำมันจากในกล้วย    ถ้ายังมีฟองคือยังไม่สุกหรือแห้ง

7.ตักกล้วยออกจากกระทะคือต้องหรี่ไฟลงด้วยก่อนจะเอาออกสีกล้วยจะได้สวย ยกเสด็จน้ำมัน5-6ครั้ง เพื่อให้น้ำมันออก

8.ในระหว่างรอกล้วยพักให้เสด็จน้ำมัน ทำน้ำเชื่อม คือ น้ำตาลทรายขาว1กิโล น้ำเปล่า1ขวด เคี่ยวให้เหนียว ใส่ใบเตยไปด้วยเพื่อความหอม

9.ต้มน้ำสมุนไพรให้สุก และ นำน้ำเชื่อมที่เคี่ยวเสร็จแล้วไปผสมน้ำสมุนไพรที่สุกมาคนให้เข้ากัน

10.นำมาเคลือบกับกล้วยฉาบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พอหลังจากนั้นก็ไปผึ่งแดดให้แห้ง

11.เปลี่ยนน้ำมันใหม่ ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วนำกล้วยฉาบที่สุกแล้วมาทอดใส่ลงกระทะอีกครั้ง สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนน้ำมัน คือ ในการทอดกล้วยครั้งแรกจะมียางอยู่ที่กล้วย พอทอดน้ำมันใหม่ยางหมดกล้วยจะกรอบอร่อย เคล็ดลับนิดๆหน่อยๆคือใส่ใบเตยไปในเวลาทอด จะช่วยให้มีกลิ่นหอม

12.นำกล้วยฉาบเคลือบสมุนไพรไปใส่ในภาชนะ  เมือทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้วจะได้กล้วยฉาบมงคล ซึ่งจะมี สี กลิ่น รส ต้องสัมผัสรวมกัน  จากสมุนไพรธรรมชาติ ภายใต้ชื่อ กล้วยฉาบมงคล สมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยมีรสชาติจากสมุนไพรที่หาได้ในตำบลท่าโพธิ์ชัย

จากการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ได้เรียนรู้ขั้นตอนวิธีการทำเป็นประโยชน์อย่างมาก กล้วยฉาบมงคลยังตอบโจทย์สายคนรักสุขภาพ ที่มีส่วนผสมมาจากสมุนไพรพื้นบ้าน  และสามารถนำไปพัฒนาหรือต่อยอดในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้ครัวเรือนซึ่งใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน ให้มีรายได้หมุนเวียน  เป็นการพัฒนาสูตรที่สามารถไปวางจัดจำหน่ายได้อีกด้วย เพราะทำมาจากสมุนไพรออร์แกนิค เหมาะสำหรับเป็นขนมทานเล่นได้แบบไม่กลัวอ้วน