ชื่อบทความ : ลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านในชุมชนที่ทอเสื่อกกในชุมชนหมู่ที่3 ตำบลแสลงโทน
ชื่อหมู่บ้าน : บ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน  อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์
ชื่อเจ้าของบทความ : นายอัครพล กันรัมย์


โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development)  มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการ  รับผิดชอบตำบลแสลงโทน  อำเภอเมืองบุรีรัมย์  จังหวัดบุรีรัมย์  โดยมีโครงการเดิม  “โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ๑ มหาวิทยาลัย ๑ ตำบล (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ” ได้มีการจัดทำโครงการเกี่ยวการพัฒนาลวดลายผ้าทอมือ และเสื่อกก

จากการประชุมในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมทางคณะผู้ปฏิบัติงานได้มีมติที่จะพัฒนาต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้นจึงได้มีการคิดจัดทำ ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือและเสื่อกกที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาเป็น 2 ผลิตภัณฑ์   คือ

• ผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากเสื่อกก

• ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าจากผ้าทอมือ

ในวันที่ 11-12 เดือน กรกฎาคม 2565 ทางคณะปฏิบัติงานได้มีการลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านในชุมชนที่ทอเสื่อกกในชุมชนตำบลแสลงโทน กระผมได้รับหน้าที่ให้สำรวจในพื้นที่หมู่ที่ 3 และได้มีการพูดคุยกับ นาง ปริยาภัทร ทับประโคน อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลแสลงโทน โดยนางปริยาภัทร เล่าว่าได้มีการทอเสื่อกกมากว่า 10 ปีและในสมัยก่อนการทอเสื่อไม่ได้มีการพัฒนาลวดลายที่หลากหลายเหมือนเช่นปัจจุบัน

นางปริยาภัทร ยังพูดอีกว่าปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นชาวนาและทอเสื่อกกเป็นอาชีพเสริม ยังไม่ได้มีการนำมาแปรรูปเป็นกระเป๋าหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ เพียงแค่ทอเป็นผืนเอาไว้ใช้และแบ่งให้ญาติ ๆ เท่านั้น

แม้ปัจจุบันกระแสความนิยมในการใช้เสื่อกกจะลดลง ค่านิยมในการทำงานตามโรงงานอุตสาหกรรมของคนรุ่นใหม่มีมาอย่างต่อเนื่อง  แต่ผลิตภัณฑ์เสื่อกกตำบลแสลงโทนก็ยังมีการทำออกมาอย่างไม่ขาดสาย  เพราะคนหนุ่มคนสาวถึงแม้จะอยู่ที่โรงงาน  แต่คนแก่คนเฒ่าที่เฝ้าบ้านรอการเก็บเกี่ยวผลิตผลด้านการเกษตร ต่างไม่ปล่อยเวลาว่างให้ผ่านไปโดยสูญเปล่า  การทอเสื่อกกของชุมชนจึงยังคงอยู่ได้เสมอมาจนถึงวันนี้

เมื่อก่อนการทอเสื่อ เป็นไปเพื่อการใช้สอยในครัวเรือน  โดยท้องถิ่นใดมีต้นกกก็ทอเสื่อกก  ท้องถิ่นใดมีต้นกระจูดก็ทอเสื่อกระจูด  เสื่อในอดีตเป็นของใช้ที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับปูนั่งหรือนอน  จนถึงกับมีคำกล่าวว่า  บ้านไหนไม่มีเสื่อใช้  ถือว่า พ่อ แม่ ลูก เกียจคร้านไม่มีฝีมือ  หนุ่มสาวที่แต่งงานตั้งครอบครัวใหม่หรือขึ้นเรือนใหม่ จะต้องเตรียมที่นอน หมอน มุ้ง  ส่วนเสื่อฝ่ายหญิงจะจัดเตรียมทอสะสมไว้เป็นของขึ้นเรือน  นอกจากนี้ยังทอเพื่อถวายเป็นไทยทานให้กับวัด  เพื่อบำรุงศาสนาในฤดูเทศกาลต่างๆ  และยังนำเสื่อที่ทอไปซื้อขายแลกเปลี่ยนกับหมู่บ้านใกล้เคียงอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากต้นกกและจัดจำหน่ายในท้องตลาดมีการผลิตและใช้งานยังไม่เหมาะสมทำให้ปัญหาเรื่องการเกิดเชื้อรา ทางคณะผู้ปฏิบัติงานก็ยังมีมติการประชุมที่จะพัฒนารูปแบบกระเป๋าเสื่อกกให้มีมาตรฐานในระดับที่สูงขึ้นไปกว่าเดิม


วีดีโอประจำตำบล