ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ “แมลง” กลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ในฐานะของโปรตีนทางเลือก แต่รู้หรือไม่ว่า “แมลง” กลับเป็นสิ่งที่นามารับประทานเล่นกันอย่างแพร่หลายมานานหลายปีทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคโดยเฉพาะ “จิ้งหรีด” เรามักจะเห็นหน้าค่าตากันได้จากร้านขายแมลงทอดตามตลาดนัด ที่มีการนามาคลุกเคล้ากับซอสปรุงรสทาให้หอมกรุ่นจนได้ที่ ชวนให้น่ารับประทานอย่างน่าอัศจรรย์ จนกระทั่งระยะเวลาผ่านไปนานาประเทศเริ่มเห็นลู่ทางของการนาแมลงเหล่านี้มาเพิ่มมูลค่าให้กลายมาเป็นแหล่งโปรตีนแหล่งใหม่ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ต่างจากแหล่งโปรตีนหลักอย่าง ไก่ หมู วัว และสามารถนามาแปรรูปเป็นเมนูอาหารที่หลากหลายทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

               นั่นจึงเป็นที่มา ที่ทาให้ทีมผู้ปฏิบัติงานเกิดการคิดค้นที่จะทาโปรตีนจากจิ้งหรีด ทีมได้ลงพื้นที่ไปยังฟาร์มคุณบุญช่วย เจ้าของพงพันธ์ฟาร์ม และได้พูดคุยกับคุณบุญช่วยว่าจะแปรรูปจิ้งหรีดมาเป็นโปรตีนสาหรับคนรักสุขภาพ เพราะจิ้งหรีดตัวเดียว เท่าโปรตีนเวย์ 1.5 เม็ด เพราะโปรตีนเวย์ไม่มีไขมันตกค้าง เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้สร้างกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างมัดกล้ามเนื้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงเป็นที่ต้องการของนักเพาะกล้าม นอกจากนั้น โปรตีนเวย์ที่ได้จากจิ้งหรีดยังเหมาะกับกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพราะช่วยควบคุมการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง”

                จากการปรึกษาหารือกับคุณบุญช่วย คิดว่าเทคโนโลยีการแปรรูปเป็นผงโปรตีนนั้น คือจุดเปลี่ยนที่ทาให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากแมลงได้ง่ายขึ้น เพราะกินโดยที่ไม่ต้องเห็นตัวมันนั่นเอง โดยกระบวนการแปรรูปเป็นผงโปรตีนนั้น ก็คือการนาจิ้งหรีดมาอบแห้งแล้วก็นามาบดเป็นผงละเอียด นาไปเป็นส่วนผสมของอาหารได้ทุกชนิด เช่น เค้ก คุกกี้ โจ้ก มักกะโรนี พิซซ่า ซีเรียลบาร์ ส่วนประกอบของอาหารเสริม เครื่องดื่มโปรตีน โดยผงแป้งโปรตีนจากจิ้งหรีดจะมีลักษณะเหมือนเวย์โปรตีน

ภาพการปฏิบัติงาน