การลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์ในชุมชน

ข้าพเจ้านาย ดุสิต บุผาโต ประเภทประชาชน (AG12-2) ตำบลบ้านแวง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์

กับโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ( U2T for BCG and Regional Development )

เดือนกรกฎาคม 2565 กับการทำงานเดือนแรกในโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ( U2T for BCG and Regional Development ) จะเป็นการลงพื้นที่เพื่อหากลุ่มคนในชุมชนที่รวมตัวกันสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อการค้าขายภายในชุมชน ซึ่งกระผมเองได้ลงพื้นที่ในหมู่บ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านแวง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้เข้าพบนางคำเขียน หงส์อวน ประธานกลุ่มแม่บ้าน และนางเครือวัลย์ เนาไธสง สมาชิกกลุ่มแม่บ้าน โดยได้สอบถามถึงการดำเนินงานของกลุ่มแม่บ้าน ถามถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้ทำขาย ซึ่งทางประธานกลุ่มได้ให้ข้อมูลมาเป็นที่น่าสนใจคือ

การดำเนินงานของกลุ่มแม่บ้านก็ได้ทำมาหลากหลายผลิตภัณฑ์ทั้งทางหน่วยงานพัฒนาชุมชนเข้ามาช่วยพัฒนาแต่ก็ไปต่อไม่ได้ เช่นเรื่องทอผ้าไหม ประธานกลุ่มให้ข้อมูลว่ามันไม่สามารถทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้เพราะกว่าจะได้ผ้าไหมหนึ่งผืนต้องใช้เวลานานมาก ตั้งแต่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มาเลี้ยงไหม สาวไหม จนเข้าสู่กระบวนการทอผ้า ซึ่งนานมากกว่าจะได้เงินจากการขายผ้าไหม และใช่ว่าทอออกมาแล้วจะขายได้เลย ต้องรอคนมาซื้อ บางทีก็ไม่ได้ขายเลย ทำให้การใช้ชีวิตที่หวังจะพึ่งพาอาชีพนี้เนไปไม่ได้ หรือแม้แต่การทอพรมเช็ดเท้าที่กลุ่มแม่บ้านเคยทำ ปัญหาและอุปสรรค์ก็มีมากมาย เช่นการต้องซื้อเศษผ้าจากที่อื่นมาทำ ทำให้ต้นทุนสูง และทำออกมาแล้วก็ขายไม่ได้ นาน ๆ จึงจะมีคนซื้อ

ทางกลุ่มแม่บ้านจึงอยากจะทำผลิตภัณฑ์ที่ทำออกขายได้ทุกวันเพื่อให้ทันต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าค่าครองชีพทุกวันนนี้สูงขึ้นมาก จนหาเงินไม่ทัน ชาวบ้านเป็นหนี้สินกันทุกครัวเรือน

ทางกลุ่มได้เสนออยากทำผลิตภัณฑ์น้ำอ้อยมะนาวกัญชา หมักเป็นไวน์เพื่อให้การเก็บรักษาได้ยาวนาน เพราะกลุ่มแม่บ้านมองว่าสิ่งที่ขายดีที่สุดจะเป็นพวกเครื่องดื่มจึงอยากจะให้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ( U2T for BCG and Regional Development ) ช่วยพาทำ

แต่การนำเสนอไปยังอาจารย์ประจำตำบล อาจารย์ก็สนใจแต่คงไม่สมารถทำได้เพราะระยะเวลาโครงการมีเวลาเพียงสามเดือน จึงไม่สามารถทำการหมักไวน์ได้ทัน ยังไงก็แล้วแต่กลุ่มแม่บ้านก็ยังรอความหวังหากโครงการมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่านี้ในครั้งต่อไปก็ขอให้พิจารณาโครงการที่กลุ่มแม่บ้านหนองไผ่อยากทำนี้ด้วยครับ