วิธีดูแลรักษาผ้าไหม

ผ้าไหมที่ซื้อมาใหม่

   ก่อนจะนำผ้าไหมไปตัดควรจะนำไปแช่น้ำหรืออบไอน้ำก่อนเพื่อให้ผ้าไหมอยู่ตัว

การตัดเย็บ                                                                                

  ขั้นแรกให้จุ่มผ้าไหมลงในน้ำร้อน เพื่อไล่สีที่หลงเหลือหรือสีที่ไม่สามารถจับติดในเนื้อผ้าไหม

ให้ออกไป นอกจากนี้แล้วยังทำให้มีความงามเป็นประกายดีขึ้น หลังจากนั้นรีดผ้าไหมทางด้านหลังด้วยไฟอ่อน ๆ โดยพ่นน้ำเพียงเล็กน้อยก่อนรีดบาง ๆ เท่านั้น อย่าถึงกับให้เปียกเพราะถ้าเปียกอาจทำให้ผ้าเกิดเป็นจุดที่ไม่สวยงาม หลังจากนั้นแล้วจึงจัดเส้นลายผ้าให้ตรง แล้วจึงทำการตัดและเย็บด้วยเข็มและด้ายที่เหมาะสมกับคุณภาพของผ้า

การซักผ้าไหม

  การทำความสะอาดผ้าไหมให้ใหม่อยู่เสมอ ควรซักด้วยน้ำยาซักแห้ง ชนิดอ่อน ถ้าเป็นน้ำยาซักแห้งที่ใช้กับผ้าไหมจะดีมาก ไม่ควรซักด้วยเครื่องซักผ้า เพราะจะทำให้ผ้าไหมยับและ รีดยาก ควรซักผ้าไหมด้วยมือด้วยความนุ่มนวล และไม่ควรขยี้หรือบิดผ้าแรงๆ เพราะจะทำให้ผ้าเสียทรง ไม่ควรแช่ไว้นานโดยเฉพาะ ผ้าสีสด หลังจากซักเสร็จแล้วควรสลัดผ้าไหมให้คลายตัวและไม่ย่นก่อนนำไปตาก เมื่อผ้าแห้งจะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่ายขึ้น

การตากผ้าไหม

  การตากผ้าไหมควรตากในที่ร่ม หรือแดดอ่อนๆ เพื่อป้องกันสีซีดเนื่องจากถูกแดดจัดก่อนตากควรสลัดให้ผ้าคลายตัวก่อน จะทำให้ง่ายต่อการรีดมากยิ่งขึ้น

การรีดผ้าไหม

    ใช้น้ำยารีดผ้าที่ใช้ได้กับผ้าไหม ฉีดพรมให้ทั่ว ผ้าไหมทั่วไปให้ใช้ความร้อนพอเหมาะ สำหรับผ้าไหมพิมพ์ให้ลดความร้อนลงจากปกติประมาณ 1-2 ระดับ สำหรับผ้าไหมที่ยับมาก ฉีดน้ำยาหมาดๆ แล้วพับให้เรียบร้อยใส่ถุงพลาสติก นำเข้าช่องแช่แข็งในตู้เย็นประมาณ 10 นาทีแล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดได้เรียบและง่ายกว่าเดิม เนื่องจากใยผ้ามีความชื้นอยู่ภายในอย่างสม่ำเสมอ

 

การระมัดระวังและเก็บรักษา                                                              

  หลังจากสวมใส่ทุกครั้งให้ตรวจสอบสิ่งสกปรกที่ติดอยู่อย่างระมัดระวัง ผึ่งให้เสื้อผ้าคงรูปเดิมในที่ ๆ มีการถ่ายเทอากาศที่ดีปราศจากฝุ่นละออง ถ้าเสียรูปร่างหรือรอยยับให้ใช้เตารีด รีดให้เรียบ การเตรียมการเก็บรักษา ก่อนเก็บเสื้อผ้าต้องอยู่ในสภาพเรียบไม่มีรอยยับแห้งและสะอาดอยู่เสมอ อย่าเก็บในที่มีความชื้นและต้องปราศจากแมลงหรือราที่จะทำอันตรายกับผ้าไหมควรเก็บใส่ถุงที่มีอุณหภูมิต่ำและสะอาด อาจเก็บในถุงผ้า หรือถุงพลาสติกก็ได้ การตากผ้าควรทำในที่มีการถ่ายเทอากาศ มีความชื้นต่ำในระหว่างเวลา 10.00 – 14.00 น. เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามในฤดูฝนความชื้นสูงควรทำการป้องกันแมลง และเชื้อราต่าง ๆ ที่อาจทำอันตรายกับผ้าไหมได้