เริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่ วันศุกร์ ที่ 5 สิงหาคม 2565 ซึ่งได้รับผิดชอบหมู่ที่ 2 บ้านหนองไผ่ ตำบลแดงใหญ่ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีจำนวน 157 หลังคาเรือน และมีประชากรในหมู่บ้าน ประมาณ 600 คน
จากการที่ลงพิ้นที่ ได้สอบถามชาวบ้านว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา มีคนตกงานหรือติดโควิดเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านหรือไม่ แต่ก็ไม่มีใครได้กลับบ้าน เพราะกลับมาก็ไม่มีงานทำ แต่จะเลือกหางานใหม่ทำที่ กรุงเทพมหานคร และอีกนึงสาเหตุคือไม่กล้ากลับบ้าน เพราะกลัวคนทางบ้านติดโควิดด้วย จึงเลือกที่จะไม่กลับมาบ้าน
ในเรื่องอาหารพื้นบ้านก็จะหาตาฤดูกาล ถ้าเป็นหน้าเห็ดก็จะไปเก็บเห็ดมาประกอบเป็นอาหาร เช่น แกงเห็ด ซุปเห็ด ผัดเห็ด เป็นต้น และถ้าเก็บได้เยอะก็จะนำมาขาย เพื่อเป็นรายได้เสริม ถ้าเป็นหน้าฝนก็จะหาปลา หาปู หากบ มากินหรือนำมาขายเป๋นรายได้เสริม เช้นกัน
ที่พัก โรงแรม หือร้านอาหารในท้องถิ่นในหมู่บ้านไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ที่พัก หรือโรงแรมก็ไม่มี เพราะเป็นชุมชน เป็นบ้านที่พักอาศัยอยู่กันเอง ไม่ได้มีรายได้ ที่จะมาทำที่พัก หรือโรงแรม และอีกอย่างหมู่บ้านเป็นพื้นที่ชนบท
นอกจากนั้นก็มีอาชีพ การเก็บสมุนไพร มาตากแห้ง เช่น ราก 30 ปลาไหลเผือก ฝานแดง โด่ไม่รู้ล้ม หนอนตายยาก เป็นต้น โดยสมุนไพรทุกชนิดหาได้ตามป่า และรับซื้อมาด้วย และนำมาตากแห้ง แล้วแพ็คใส่กระสอบ เพื่อนำไปส่งต่อที่ร้านยาจังหวัดนครราชสีมา หรือกรุงเทพมหานคร โดยทำเป็นอาชีพรองจากการทำนา และขายตามหมู่บ้าน
แต่นอกจากเก็บสมุนไพร ตากแห้งก็มี อาชีพช่างทอง ทองเหลือง และเงินแท้ทองชุบ ทองหุ้ม 100 % ไม่หลอกไม่ดำ ทำเป็นแหวน ต่างหู สร้อย ตอนนี้ทำอยู่ประมาณ 5 หลังคาเรือน ทำเป็นอาชีพรอง จากการทำนา ร้านได้ประมาณ 30,000 / เดือน แต่หลังจากช่วงโควิด ก็จะมีงานบ้าง บางเดือนก็ไม่มี เพราะต้องส่งออกไปต่างประเทศ แต่สถานการณ์โควิดทำให้ส่งออกไม่ได้ จึงทำให้ไม่มีงาน ซึ่งงานนี้รับมาจากกรุงเทพ โดยมีนายหน้าหามาให้ แล้วส่งต่อมาทำที่บ้าน ทำเสร็จแล้วก็ส่งกลับ และรับทำเป็นลวดลายต่างๆ
พืชและสัตว์ในท้องถิ่น ส่วนใหญ่คนในพื้นที่จะทำนาและเลี้ยงสัตว์เป็นส่วนใหญ่ เช่น วัว ควาย ไก่ เป็ด หมู หรือปลา เพื่อเป็นอาหาร และจำหน่ายคนในหมู่บ้าน
และส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตอนนี้มีแค่คนแก่และเด็กอยู่บ้าน เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพ เพื่อเก็บเงินและส่งกลับมาให้คนทางบ้านเพื่อใช้ในการซื้ออาหารและส่งลูกเรียน