ข้าพเจ้านางสาวอังคนาง ดาโสม ประเภทบัณฑิต ตำบลเขาคอก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ในโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development)

ประวัติความเป็นมา

บ้านโนนสวรรค์ เดิมทีเป็นบ้านโคกกลอย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งมาก่อนบ้านโคกกลอยและบ้านโนนสว่างในปัจจุบัน สาเหตุการแยกหมู่บ้านเพื่อเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน จึงได้แยกออกมาตั้งเป็นหมู่ 13 บ้านโนนสวรรค์ ผู้ที่ตั้งชื่อหมู่บ้านคือ นายวัล คำชัย มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อ นายนิล บุญว่าน

สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน

บ้านโนนสวรรค์เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีประชากรประมาณ 567 คน 132 ครัวเรือน ทิศตะวันออกติดกับบ้านโคกกลอย ทิศใต้อยู่ติดกับบ้านโนนสว่าง อยู่ห่างจากเมืองบุรีรัมย์ประมาณ 60 กิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอประโคนชัยประมาณ 13 กิโลเมตร มีกำนันวิรัตน์ บัวโฮมเป็นผู้นำชุมชน และได้รับรางวัลแหนบทองคำระดับภาค บ้านโนนสวรรค์ยังได้รับรางวัลหมู่บ้านดีเด่นระดับภาคอีกด้วย เป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านอย่างมาก หมู่บ้านของเรามีหนองค่ายที่เป็นประปาชุมชน อยู่ระหว่างบ้านโนนสวรรค์และบ้านโนนสว่าง สมัยก่อนเคยเป็นที่ตั้งปืนใหญ่และต่อมาเริ่มทำเป็นห้วย คลองและได้ให้หลวงมาขุดลอกคลองเพื่อให้บรรจุน้ำได้มากขึ้น พัฒนามาเรื่อย ๆจนเป็นหนองค่ายในปัจจุบัน ซึ่งเก็บน้ำไว้ใช้ 3 หมู่บ้าน ใช้ทั้งในการทำการเกษตรและสาธารณูปโภค

การประกอบอาชีพ มีอะไรบ้าง

ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้าประเภทเกษตร เช่น ยางพารา ข้าว มันสำประหลัง จะทำนาในฤดูฝนที่เรียกกันว่า นาปี และในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีเกษตรกรชาวสวนยางจะหยุดกรีดยางช่วงยางผลัดใบและแตกใบอ่อน ช่วงที่หยุดพักกรีดยางชาวบ้านจะเย็บผ้า ขายหอมกระเทียม ปลูกผักขายตามตลาดนัด ส่วนมันสำปะหลังจะปลูกในพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับการปลูกข้าว หรือปลูกช่วงที่เก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้วก็ได้

วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานกับอาจารย์ประจำตำบลและทีมงานเพื่อรายงานตัวและพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน ได้วางแผนแบ่งกลุ่ม 3 กลุ่ม เพื่อไปสำรวจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุมชน ดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 2. ผลิตภัณฑ์สื่อกก 3. ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมบาราย ดิฉันได้รับมอบหมายให้ไปสำรวจผลิตภัณฑ์เสื่อกกที่บ้านหนองเอียน หมู่ 3 กับทีมงานอีก 2 ท่าน