อาหารในพิธีกรรมและความเชื่อ

อาหารถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่​ ซึ่งนั้นหมายความว่าอาหารคือสิ่งที่มีสำคัญและจำเป็นมากต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์​ ผู้คนในแต่ละสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันต่างรังสรรค์​ คิดค้น​ และออกแบบอาหารออกมาได้อย่างมากมาย​ ซึ่งหนึ่งสิ่งที่สะท้อนออกมาจากอาหารก็คือวิถีชีวิต​แห่งสังคมนั้น​ ๆ​ และในหมู่บ้านรวมจนถึงตำบลเขาคอก จนสามารถเอาอาหารเหล่านี้เข้าใช้ในพิธีกรรมต่างๆ หรือตามประเพณีได้หลายรูปแบบ

หากจะมองถึงสิ่งที่มีอิทธิพล​ที่ทำให้เกิดอาหารชนิดต่าง​ ๆ​ ขึ้นก็มีมากมาย​​ ความอดยาก​ ความเชื่อ​ ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น​ และตำนาน​ ฯลฯ​ สิ่งต่าง​ ๆ​ เหล่านี้เปรียบ​เสมือนไฟที่ถูกจุดขึ้นเพื่อที่จะทำให้เกิดอาหารประเภทต่าง​ ๆ​ อันเป็นเหตุให้ในแต่ละสังคมมีลักษณะ​อาหารที่แตกต่างกันออกไป​ ซึ่งนั้นก็คือความหลากหลาย​ทางด้านวัฒนธรรม​นั่นเอง

ในบทความนี้ผู้เขียนจึงจะขอพูดถึงอิทธิพล​ที่ทำให้เกิดอาหาร​ ในภาคอีสานของประเทศไทย​ ซึ่งจะได้ยกเอาเรื่องความเชื่อและประเพณีที่ทำให้เกิดอาหารต่าง​ ๆ​ ขึ้น​ แ​ละอาหารที่เกิดขึ้นเหล่านี้ต่างสะท้อนวิถีชีวิตของคนอีสาน

หากท่านจะมองหาเสน่ห์​ของ​ภาคอีสานสิ่งแรกที่ท่านจะได้พบคือประเพณี​วัฒนธรรม​ที่งดงามซึ่งถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ​ สิ่งที่สองซึ่งก็เกิดจากประเพณี​วัฒนธรรม​ก็คืออาหาร​ ​เอกลักษณ์​อยู่ที่การสะท้อนวิถีแห่งชีวิต​ของผู้คนในภูมิภาค​ ถึงขนาดเรียกได้ว่าหากใครได้ทานอาหารอีสานจะไม่ได้แค่รสชาติอาหาร​ และรสชาติแห่งวัฒนธรรม​อีสานเข้าไปด้วย​

และอาหารที่ผู้เขียนจะพูดถึงในบทความนี้​ เป็นอาหารที่เกิดจากประเพณีบุญประจำเดือนของภาคอีสาน​ ซึ่งอาหารเหล่านี้ถูกออกแบบขึ้นจากวัตถุดิบ​ที่มีในช่วงเวลานั้น​ ๆ​ เป็นหลัก​ และส่วนใหญ่แล้วอาหารเหล่านี้จะถูกทำขึ้นอย่างประณีต​ เพื่อใช้ในการถวายพระสงฆ์​และประกอบในพิธีกรรมซึ่งเป็นความเชื่อของภาคอีสาน​

ข้าวปุ้น​ (ขนมจีน)

ขนมจีนหรือที่คนอีสานเรียกว่าข้าวปุ้นนั้น​​ ซึ่งคนอีสานก็ได้รับวัฒนธรรม​มาจากการที่คนญวนเข้ามาค้าขายในภาคอีสานเป็นจำนวนมาก​ ขนมจีนจึงแพร่หลายในภาคอีสานและถูกนำมาเป็นอาหารหลัก ในการประกอบงานบุญประเพณี​ต่าง​ ๆ​  การรับประทานจะรับประทานคู่กับน้ำยา ในปัจจุบันมีน้ำยาขนมจีนให้เห็นหลายประเภท ซึ่งผู้คนก็มีการคิดค้นสูตรการทำน้ำยาขนมจีนขึ้นมากมาย แต่ละภูมิภาคก็มีความแตกต่างกัน​ ตามวัตถุดิบที่มีในชุมชนและภูมิภาคนั้น​ ๆ ในภาคอีสาน บุญประเพณีที่มีการนำขนมจีนหรือข้าวปุ้นมาใช้มากที่สุด คือ ประเพณี​ “บุญเดือนสี่ หรือบุญผะเหวด” ซึ่งมีการนำขนมจีนมาใช้สำหรับการถวายพระสงฆ์และการเลี้ยงรับรอง ผู้ที่มาร่วมบุญ จนบางพื้นที่เรียกงานบุญเดือนสี่ว่า​ “บุญข้าวปุ้น” ซึ่งนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า ข้าวปุ้นเป็นอาหารหลักที่บ่งบอกถึงความเป็นบุญเดือนสี่​ หรือบุญผะเหวดนั่นเอง​ ซึ่งสาเหตุที่มีการนำข้าวปุ้น มาเป็นอาหาร ในการรับรองผู้มาทำบุญ เป็นการแสดงให้เห็นถึงสายใยที่มีต่อกันและกัน​ เพราะขนมจีนมีลักษณะเป็นเส้นซึ่งมีความหมายถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นของคนในชุมชนนั้น​ ๆ นอกจากบุญเดือนสี่​แล้ว​ ขนมจีนยังถูกนำมาใช้ในงานบุญประเพณีต่างๆ เช่น งานบุญแจกข้าวหรือบุญอุทิศส่วนกุศล งานบวช แต่ก็มีงานที่ไม่อนุญาตให้นำขนมจีนมาใช้ในงานนั่นคืองานศพ ไม่มีเหตุผลแน่ชัดว่าเหตุใดงานศพจึงห้ามไม่ให้นำขนมจีนมาใช้ แต่ทั้งนี้ก็เป็นแนวปฏิบัติที่คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ข้าวต้มมัด

ข้าวต้มมัด ถือเป็นอาหาร ที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถูกใช้แทบทุกประเพณี วิธีการทำข้าวต้มมัด คือการนำเอาข้าวข้าวสารซึ่งเป็นข้าวเหนียว แล้วใส่น้ำลงไปนิด​ ๆ​ จากนั้นนำไปห่อในใบตอง ซึ่งในการห่อนี้จะนำกล้วยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญใส่ลงไปด้วย​ นอกจากนี้อาจจะมีการใส่อย่างอื่นนอกจากกล้วยเช่น มัน ถั่วลิสง​ ถั่วเหลือง ซึ่งแล้วแต่ผู้ที่ทำจะรังสรรค์ขึ้นตามใจชอบ หลังจากนั้นนำข้าวต้มที่ห่อได้ ๒​ อันมาประกบกันแล้วใช้ตอกมัดเป็นคู่​ จากนั้นนำไปต้ม จนสุกก็จะได้ข้าวต้มมัด ที่สามารถนำไปรับประทานได้ ซึ่งข้าวต้มมัดนี้ถูกนำไปใช้ในการประกอบพิธีกรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือแทบทุกพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานบุญประเพณีต่าง​ ๆ งานอุทิศส่วนกุศล งานบวช พิธีทำบุญบ้าน และอื่น​ ๆ และตำบลเขาคอกก็ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของวัฒนธรรม แม้จะรายล้อมไปด้วยคนในวัฒนธรรมเขมรก็ตาม ทุกคนก็ยังให้ความสำคัญกับอาหารเหล่านี้อยู่เสมอ