ข้าพเจ้านายอำนวย จิตไทย ประเภทประชาชน หลักสูตร ID15-1 ปฏิบัติงานโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 ของตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
จากการประชุมกลุ่มได้รับมอบหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมชุดครอบครัว พ่อ แม่ ลูก โดยใช้ลายที่มีอัตลักษณ์ของชุมชนตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์และให้ทำการสำรวจข้อมูลชุมชนพร้อมบันทึกข้อมูล TBD (Thailand Big Data) ให้เป็นฐานข้อมูลของประเทศไทย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตำบลนี้ได้เลือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรัง มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาฝีมือและเพิ่มช่องทางในการขายผ้าที่ตนทอขึ้นมา เพราะเมื่อเวลาผ่านไปลายผ้าก็มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเรียนรู้การทำลายผ้า กรรมวิธีและเทคนิคการทอผ้าใหม่ๆ จึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรังเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยนำให้กลุ่มได้ทำการตัดเย็บผ้าชุดครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ที่มีลายผ้าเป็นของตำบล ขณะนี้กำลังให้ออกแบบใหม่ อาจารย์ประจำกลุ่มกำลังดำเนินการ และในขณะนี้ได้ทำการศึกษาการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ดังนี้
1) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรังเป็นกิจการที่ดําเนินการ หรือประสงค์ที่จะดําเนินการร่วมกันของกลุ่มบุคคลในพื้นที่จัดเป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชน และ/หรือ รวมถึงพื้นที่ข้างเคียงที่มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่เป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชนด้วย ซึ่งตั้งอยู่ในตําบลกระสัง อําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนมีวิถีชีวิตร่วมกันและสามารถดําเนินกิจการร่วมกันได้ ประกอบด้วยสมาชิกที่อยู่ร่วมกันในชุมชน 7 คน โดยสมาชิกไม่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน และไม่มีรายชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านเดียวกัน
2) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรังเป็นกิจการที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการที่ทําให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชุมชน
3) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรังดําเนินกิจการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได ้ เพื่อการพึ่งพาตนเอง และเพื่อประโยชน์สุขของคนในชุมชน
4) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรังดําเนินกิจการโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยและศิลธรรมอันดีของประชาชน
จะเห็นได้ว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านโนนรัง จะดําเนินการร่วมกันของกลุ่มบุคคลในพื้นที่ มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาฝีมือและเพิ่มช่องทางในการขายผ้าที่ตนทอขึ้นมา โดยสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนมีวิถีชีวิตร่วมกันและสามารถดําเนินกิจการร่วมกันได้และเรียนรู้การทำลายผ้า กรรมวิธีและเทคนิคการทอผ้าใหม่ๆ ร่วมกันให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
