เมื่อเสื้อผ้าทำร้ายโลก ก่อขยะมลพิษ

มาเร็ว ไปเร็ว แต่ทิ้งผลกระทบไว้มหาศาล

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ในวันที่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว มันจะกลายเป็นขยะที่สร้างมลพิษต่อโลกอย่างยาวนาน ด้วยเส้นใยสังเคราะห์ซึ่งมีส่วนผสมของเม็ดพลาสติก เมื่อทิ้งแล้วอาจกลายเป็นขยะที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายนับร้อยๆ ปี การเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศจากโรงงานผลิต รวมถึงปริมาณสารเคมีซึ่งเป็นส่วนผสมอยู่ในเนื้อผ้ากลับตกไปอยู่ในหลุมฝังกลบและหลุดไปปนเปื้อนน้ำใต้ดิน ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆอุตสาหกรรม Fast Fashionเป็นการผลิตเสื้อผ้าดีไซน์ตามเทรน ไม่คงทน และมีราคาที่ต่ำซึ่งส่งผลกระทบไปสู่สิ่งแวดล้อมและการกดขี่แรงงานเพราะยิ่งมีการผลิตที่รวดเร็วและกดต้นทุนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งนำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบวัสดุและมนุษย์แรงงานมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ Fast Fashion ยังทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายสามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อยไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับไหนก็ตาม ซึ่งการหลีกเลี่ยง Fast Fashion เป็นเรื่องที่ยาก แต่เราสามารถช่วยกันแก้ปัญหานี้ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้า นายพีระพงษ์ ลาหนองแคน ผู้ปฎิบัติงานประจำตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์

ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานที่ชุมชนนิคม ตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จากการสำรวจพบเห็นสภาวะของเศษผ้าเหลือ เสื้อผ้าไม่ได้ใช้ ขยะเสื้อ้ามีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน ข้าพเจ้าและทีมผู้ปฎิบัติงานจึงได้เลงเห็นและตระหนักถึงสภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้

สินค้าในกลุ่มฟาสต์แฟชั่น (Fast Fashion) ที่เน้นการผลิตเสื้อผ้าทันสมัย แต่คุณภาพต่ำ เพื่อให้คนซื้อไปใช้แล้วทิ้งหรือเปลี่ยนใหม่ตลอดเวลานั้นก็อยู่ห่างไกลจากคำว่ายั่งยืนเพื่อสลัดให้หลุดพ้นจากการเป็นผู้ร้าย อีกทั้งก็มีคนในอุตสาหกรรมแฟชั่นจำนวนไม่น้อยที่ต้องการผูกมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืน จึงก่อเกิดเป็นกระแส Eco Fashion หรือ Sustainable Fashion และมีผลผลิตที่เป็นรูปธรรมออกมาหลากหลาย

สนับสนุนแบรนด์ Eco Friendly 

การเปลี่ยนจาก Fast Fashion มาเป็น Eco Fashion เหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆแล้วง่ายกว่าที่คิด ซึ่งความหมายสั้นๆของ Eco Fashion ก็คือ แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งธรรมชาติ สัตว์ และมนุษย์ ในปัจจุบันแบรนด์ไทยหลายๆแบรนด์ก็หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆมีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน ซึ่งการสนับสนุนงานที่ทำจากธรรมชาติ หรือช่างฝีมือท้องถิ่นถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว 

เป็นเรื่องดีที่เราเริ่มสนใจเรื่องการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้น แต่ถ้าสุดท้ายเรายังคงผลิตอยู่เรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุดและไม่นำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล ก็ถือว่าเราไม่ได้ทำประโยชน์กับโลกเท่าไหร่

ดังนั้นเราควรเลือกซื้อเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น และรู้จักการประยุกต์ มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้า ศึกษาแฟชั่นแบบผสมผสานเพื่อลดการซื้อเสื้อผ้าใหม่ ประหยัดทั้งเงิน ทั้งช่วยโลกได้อีก

เศษผ้า เหลือใช้ หรือ เสื้อผ้าเก่า ที่เรามองข้ามสามารถนำมา ประยุกต์และดัดแปลง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ ศึกษาพัฒนาแบะต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้อีกมากมาย อาธิเช่น การนำมาต่อยอดเป็นกระเป๋าผ้าเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ที่การเปลี่ยนจาก Fast Fashion มาเป็น Eco Fashion ต่อยอดอาชีพ สร้างราายได้ สู้ชุมชนจนถึงรากหญ้า

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ทางคณะอาจารย์ได้นัดทีมผู้ปฏิบัติงานประชุมออนไลน์เพื่อปรึกษาหารือและได้ชี้แจงแบ่งงานสำหรับการลงพื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมอบรมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสภาวะโควิดในชุมชนตำบลนิคมอำเภอ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์

วันที่ 13 สิงหา 2565 ทางทีมผู้ปฏิบัติงานได้จัดกิจกรรมอบรมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสภาวะโควิดในชุมชนตำบลนิคมอำเภอสตึกจังหวัดบุรีรัมย์ทางทีมวิทยากรคณะอาจารย์และทีมผู้ปฏิบัติงานได้จัดกิจกรรมอบรมการทำกระเป๋าผ้าพวงกุญแจจากเศษผ้าและเสื้อผ้าเหลือใช้เป็นการประยุกต์นำวัสดุที่มีในครัวเรือนมาพัฒนาต่อยอดดัดแปลงให้เกิดมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้เกิดในชุมชน

กระแสรักษ์โลกก็ยังเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจเสื้อผ้าเองด้วย ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์มีความพยายามที่จะทำแคมเปญต่างๆ ออกมา ร่วมกับองค์กรการกุศล มีขายสินค้ามือสองออนไลน์ และการใช้วัสดุรีไซเคิลนำมาผลิตเสื้อผ้าใหม่ เช่น แบรนด์ Marks & Spencer, H&M และ Nike

เทรนด์แฟชั่นแห่งอนาคตมุ่งเน้นไปที่เรื่องความยั่งยืนกันมากขึ้น Fast Fashion ไม่ใช่คำตอบของความยั่งยืน แต่การบริโภคแบบใช้ซ้ำ รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าจะเป็นจุดกึ่งกลางของการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมท่ามกลางสังคมบริโภคได้เป็นอย่างดี

แฟชั่นหมุนเวียนจึงเป็นทางออกของผู้บริโภคที่น่าสนใจ อีกทั้งการปรับความคิด ทัศนคติต่อการซื้อเสื้อผ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้บริโภคควรย้อนกลับมาทบทวนตัวเองว่าจุดไหนถึงจะพอดี สามารถตอบสนองความต้องการได้และลดผลกระทบในการทำลายสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน