โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG)

หลักสูตร SC24-2 คณะวิทยาศาสตร์

ตำบลหนองชัยศรี อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำเดือนสิงหาคม

ข้าพเจ้านางสาวสุพัตรา หงส์ลอยลม ประเภทบัณฑิต ตำบลหนองชัยศรี อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ในโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ BCG  (U2T for BCG and Regional Development) รอบที่ 2

จากการที่ข้าพเจ้าได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ได้พบว่าชาวบ้าน บ้านหนองม่วง ต.หนองชัยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ มีการแบ่งพื้นที่นามาทำนาบัวเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ เพราะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี บัวที่ปลูกคือ ดอกบัวขาว เป็นดอกไม้มงคลที่คนนิยมนำมาไหว้บูชาพระมากที่สุด

                                         

        การทำนาบัวนั้นจะเตรียมพื้นที่ปลูกคล้ายกับนาข้าวดินที่เหมาะสมในการปลูกถ้าอยู่ในที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำ และเป็นดินเหนียวจะยิ่งดี การเตรียมแปลงปลูก เริ่มจากการนำน้ำออกจากแปลงให้แห้ง ยกคันดินให้สูง จากนั้นไถดะ โรยปูนขาว และทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นไถดะอีกครั้ง ใส่มูลสัตว์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ระบายน้ำเข้า เมื่อดินนิ่มก็จะเริ่มดำนาบัว โดยนำไหลบัวมาปักลงดิน ให้มีระยะห่างประมาณ 1 เมตร จากนั้น 1-2 สัปดาห์บัวก็จะเริ่มแตกกอ ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งอาจจะต้องอาศัยน้ำบาดาลช่วย เมื่อปลูกได้ 3 เดือน ก็สามารถเก็บดอกได้ โดยจะเก็บฝักวันเว้นวัน แต่ในฤดูหนาวจะเก็บวันเว้นสองวัน โดยจะเก็บดอกจะเก็บในระยะที่ดอกยังตูม โดยตัดก้านยาว 40-50 เซนติเมตร คัดขนาดเป็นกำ ๆ ละ 10 ดอก เมื่อปลูกได้ 3-4 เดือนก็จะสามารถเก็บฝักได้ ฝักแก่จะสังเกตได้จากปลายเมล็ดจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ระยะเวลาตั้งแต่ดอกตูมจนสามารถเก็บฝักได้ใช้เวลา 40-50 วัน และจะให้ผลผลิตยาวนานถึง 3 เดือนกว่านาบัวจะโทรม รายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิต 50,000-60,000 บาท/ไร่ การทำนาบัวจึงเป็นอาชีพเสริมจากการทำนาที่ชาวท่าโพธิ์ศรีนิยมทำกัน ในระหว่างรอการเก็บเกี่ยวข้าว โดยจะทำนาบัวสลับแปลงกันเพื่อให้สามารถเก็บดอกเก็บฝักได้ตลอดทั้งปี